ตามประสาคนโสด

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

โยคะในการดูเเลสุขภาพ

โยคะ เคล็ดลับการออกกำลังกาย แบบง่ายๆ
การออกกำลังกายในยุคปัจจุบันไม่จำเป็นต้องทำเฉพาะกีฬากลางแจ้ง ในลม
แต่มีทางเลือกใหม่ให้สาวๆในยุคของการแข็งขันกับเวลา
เมื่อมีคำว่าเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องทุกอย่างก็จะดูเหมือนเร่งรีบไปทุกอย่าง
วันนี้ เราจึงหาท่าโยคะมาฝากค่ะ


โยคะไม่เพียงที่จะช่วยเรื่องความงามแต่ยังเสริมเรื่องของสุขภาพเอาไว้
ด้วย การฝึกโยคะ เป็นการฝึกท่าโยคะและค้างท่านั้นไว้ระยะหนึ่ง
โยคะจะเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังทำให้เลือดและสาร
อาหารสามารถผ่านไปเลี้ยงประสาทไขสันหลัง
โยคะจะช่วยให้การทำงานของต่อมต่างๆรวมทั้งต่อมไร้ท่อทำงานดีขึ้น


การฝึกโยคะเป็นการยืดกล้ามเนื้อและมีการสอดคล้องกับการหายใจเป็นการรวม
กายและจิตร่วมกัน การฝึกท่าโยคะจะเป็นการฝึกประสาท ความยืดหยุ่น
ความแข็งแรง การทรงตัว ลดความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ
สุขภาพจิตและสุขภาพกายดีขึ้น
และยังช่วยกระชับส่วนต่างๆของร่างกายได้อีกด้วย
ท่าที่ใช้สำหรับการฝึกโยคะมีมากมาย แต่จะแบ่งท่าการฝึกดังนี้
ท่าที่เป็นหลักในการฝึกโยคะมีดังนี้


ฝึกโยคะ แก้ปัญหาปวดเมื่อย




สำหรับคนที่มีอาการปวดหลังการที่จะเปลี่ยนทุกอย่างให้ถูกวิธีก็คงต้องใช้
เวลาบ้าง นักกายภาพบำบัดจึงได้แนะนำ "การทำโยคะและฤๅษีดัดตน"
เพื่อลดอาการปวดเมื่อย
ซึ่งก็ถือเป็นการออกกำลังกายและช่วยยืดกล้ามเนื้อไปในตัวด้วย


– ท่าโยคะ ทำให้กล้ามเนื้อมีการผ่อนคลายและช่วยยืดกล้ามเนื้อ โดยเน้นการฝึกสมาธิและการหายใจเข้า – ออก


– ท่าโยคะลดอาการปวดคอ… เอามือประสานที่ท้ายทอย
และดันศีรษะไปทางด้านหน้า นับ 1 – 10
จะช่วยให้บริเวณกล้ามเนื้อคอแข็งแรงและมีเลือดมาไหลเวียนมากขึ้น


-
ท่านี้สำหรับผู้ที่สวมบรานานเกินไปจนทำให้เกิดการรัดบริเวณหัวไหล่ ต้นแขน
และสะบัก…เอามือประสานกัน ยืดออกไปทางด้านหน้าให้สุดแล้วค้างไว้โดยนับ
1-10


– ท่าฤาษีดัดตนเพื่อลดอาการปวดหลังและไหล่อย่างง่ายๆก็คือ
เอามือประสานกัน แล้วยืดแขนขึ้นไปด้านบนให้สุดจนรู้สึกตึงๆ
แล้วค้างไว้โดยนับ 1 – 10


เสร็จจากดูแลสุขภาพของอกสวยกันแล้ว ก็ยังมีเคล็ดลับสำหรับคนอกเล็กมาฝากกันด้วยละค่ะ…


ไม่เพียงจะช่วยเรื่องการปวดเมื่อยเท่านั้นการฝึกโยค่ะยังช่วยกระชับกล้าม
เนื้อได้อีกด้วย
ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยปรารถนาที่จะมีบันทายที่สวยงามได้สัดส่วน
โดยเฉพาะเวลาใส่กางเกงออกกำลังกายแบบรัดรูปหรือชุดว่ายน้ำแบบทูพีช
นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ตั้งแต่ลักษณะโครงสร้างของร่างกาย
การควบคุมน้ำหนัก
และที่สำคัญคือการบริหารเพื่อให้กล้ามเนื้อดูฟิตและเฟิร์มอยู่เสมอ


เราขอแนะนำท่าโยคะที่คุณสามารถบริหารบั้นท้ายของคุณให้กลมกลึงสวยกระชับ
ลองทำตามสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในเวลาไม่กี่เดือน


ท่าภูเขา Tadasana (Mountain Pose)


ท่านี้เป็นท่าเริ่มต้น ให้ยืนตรงเท้าชิด ส้นเท้าและฝ่าเท้าตรงกัน
เหยียดเข่าให้ตึง เกร็งกล้ามเนื้อต้นขาให้เข่ากระชับ
เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ยืดอก หลังเหยียดตรงคอตั้งตรง ตามองตรงไปข้างหน้า
รักษาสมดุลของร่างกายให้น้ำหนักผ่านเป็นแนวตรงลงมาจากศีรษะ
ไหล่กึ่งกลางสะโพก ข้อเข่า ข้อเท้า และไปยังฝ่าเท้าทั้งสองข้างแขนวางแนบลำตัว
ท่างู Bhujangasana (Cobra Pose)
นอนคว่ำอยู่บนพื้น เท้าเหยียดตรง มือวางไว้ข้างลำตัว
หน้าหันไปข้างใดข้างหนึ่ง กดเท้า กล้ามเนื้อต้นขา และ สะโพกลงบนพื้น
หายใจเข้าพร้อมกับหันหน้าตรง เอาคางจรดพื้น เหยียดข้อศอก ยกศีรษะ ไหล่
หน้าอก และเอวให้สูงขึ้น โดยส่วนที่ยังกดอยู่บนพื้นคือ บริเวณหน้าท้อง
ต้นขา และเท้า ให้ค้างท่านั้น 15-30 วินาที หายใจตามปกติ

ท่าแมงป่อง


คุกเข่าลงที่พื้น โน้มตัวไปข้างหน้าวางศอกและแขนด้านในราบไปกับพื้น
ให้ฝ่ามือคว่ำลง แขนควรห่างกันประมาณ 1ช่วงไหล่
ยื่นศีรษะไปข้างหน้าและยกให้สูงที่สุด ยกสะโพกขึ้น วางเท้าให้มั่นคง


หายใจเข้าและแกว่งขาขึ้นไปเหนือศีรษะ รักษาสมดุลของร่างกายไว้
ยกขาตรงขึ้นเหนือศีรษะ ค่อยๆ งอเข่าและปล่อยขาลงมาทางด้านศีรษะ
ระวังอย่าเคลื่อนไหวเร็วเกินไป
และอย่าทิ้งขาลงไปไกลเกินไปขณะรักษาสมดุลของร่างกายไว้ ทำย้อนกลับจากข้อ 5
จนกลับไปสู่ท่าคุกเข่า
คำแนะนำ


ไม่ควรลองท่าแมงป่องจนกว่าคุณจะสามารถทำท่าที่ต้องใช้สมดุลของร่างกาย
อื่นๆ (เช่น ท่าเอกบาทอาสนะ) และท่ายืนด้วยศีรษะ (ศีรษะอาสนะ) ได้แล้ว
ผู้เริ่มทำท่านี้ใหม่ ๆ ควรมี ครูฝึกควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
ครั้งแรกๆอาจลองทำท่านี้ใกล้ๆผนัง วางตำแหน่งตัวคุณเมื่อทำท่า ตามข้อ 1
ให้ศีรษะอยู่ห่างจากผนัง 2-3 ฟุต หากเสียสมดุล กระดูกสันหลัง
และอกนับเป็นท่าที่รวม เอาประโยชน์ที่ได้จากท่าจักรอาสนะ (ท่ากงล้อ)
และศีรษะอาสนะ (ท่ายืนด้วยศรีษะ) เข้าไว้ด้วยกัน ความหลากหลายของท่า


ท่านี้สามารถทำได้ 2 แบบดังต่อไปนี้
เมื่อทำท่าแมงป่องได้ดังอธิบายข้างต้นแล้ว
ให้ค่อยๆยกขาขึ้นจนขาอยู่เหนือศรีษะ ท่า นี้ต้องใช้แรงและการทรง
ตัวมากว่าท่าแมงป่องที่อธิบายไว้ข้างต้น
เมื่อทำท่าแมงป่องได้ดังอธิบายข้าง ต้นแล้ว ให้ค่อยๆปล่อยขาลงมา
ดึงเท้าให้เข้ามาใกล้ศีรษะจนส้นเท้าวาง อยู่บนส่วนบนของศีรษะ
ท่านี้ทำให้ร่างกาย ต้องเป็นรูปโค้งอย่างมาก จึงสร้างความยืด
หยุ่นให้กับกระดูกสันหลัง ได้มากกว่า ระยะเวลา / การทำซ้ำ


ให้คงท่าแมงป่องไว้ตราบเท่าที่ยังรู้สึกสบายอยู่
อย่าคงท่านี้ไว้นานเกินไป
เพราคุณควรเก็บแรงไว้ตอนสุดท้ายของท่านี้โดยไม่ให้ตกลงมา
แรกๆควรคงท่านี้ไว้ 20-30 วินาที เพิ่มระยะเวลาเมื่อคุณชำนาญขึ้น


***ข้อควรระวัง เช่นเดียวกับท่ากลับหัวอื่นๆ ท่าชวังคอาสนะ ไม่เหมาะกับสตรีมีรอบเดือน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น